Verified answer

...ผมขอตอบเหมือนเดิมว่า..

การแก้ปัญหาขยะ....รัฐบาลต้องประกาศเป็น"ปัญหาของชาติ"และรัฐบาลต้องทำอย่างเป็นระบบ อย่างบูรณาการทุกภาคส่วน ทุกคนทุกฝ่ายต้องให้ความร่วมมือทำอย่างพร้อมเพรียงกัน และวางแผนร่วมกันตั่งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ กำหนดเวลาในการแก้ปัญหาไว้ให้ชัดเจนว่าจะใช้เวลาเท่าใหร่ในการทำงานนี้ จึงจะประสบความสำเร็จได้.....

....เพิ่มเติม

... เช้าวันอาทิตย์ที่31พ.ค.นี้เวลา09.00น..ได้ฟังรายการ.."เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์" พอดี....

**ได้ยินนายกฯพูดถึงสิ่งแวดล้อม โดยกล่าวเพียงสั้นๆว่า เกิดจากการทำลายสิ่งแวดล้อมของคนไทยพวกเราเอง จึงทำให้เกิดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมได้และจะเป็นปัญหาในอนาคต นายกฯพูดแค่อยากเห็นคนไทยช่วยกันดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมร่วมกัน**

ถ้า...ภาครัฐให้.."ความสำคัญ" เพียงเท่านี้ (ผมยังจำชื่อรมต.ที่ดูแลกระรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่ได้เลยว่า..ชื่ออะไร) และรมต.ที่ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อม.."ขาดวิสัยทัศน์" ในการที่จะวางแผนในการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและเป็นระบบ ปัญหาเรื่องขยะก็คงจะเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอยู่ต่อไป แต่ไม่รู้ว่าเมื่อใหร่และรัฐบาลใหนจะทำให้เป็นจริงเป็นจัง เพราะถ้าตราบไดที่ภาครัฐฯยังไม่เห็นความสำคัญของปัญหาขยะ ว่ามันเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่จริงๆ โอกาศที่จะแก้ปัญหาก็แทบจะไม่เกิดขึ้นได้เลย....

.....เพราะลำพังปล่อยให้ประชาชนฝ่ายเดียวแก้กันอย่างตามมีตามเกิด ผมเชื่อว่าปัญหาก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรมครับ..ก็คงต้องให้พวกเรา..."ภาคประชาชน" นี่แหละครับ ช่วยกันกู่ก้องร้องตะโกน รณรงค์ให้คนไทยทั้งหลาย หันมาใส่ใจดูแลปัญหาขยะและสิ่งแวดล้อม อย่างถูกต้องและเป็นระบบกันเองดีกว่าที่จะไม่ทำอะไรเลยครับ

ช่วงนี้พวกเรา ทั้งประชาชน และเจ้าหน้าที่รวมถึงหัวหน้างาน อาจจะยังตระหนักในเรื่องนี้น้อย เมื่อตระหนักน้อยก็จะยังไม่เคร่งครัด

ประชาชนที่แยกถุงขยะตามประเภทขยะ ยังมีไม่ถึงครึ่งของประชาชนทั้งหมด (ไม่ถึงครึ่งของครึ่งด้วยมั้ง) เจ้าหน้าที่จึงยังไม่เคร่งครัดในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในเมืองเล็ก

ในอนาคต เมื่อเจริญขึ้น ก็จะมีความตระหนักกันมากขึ้น ต้องมีการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้ทุกฝ่ายมี"วินัยในตนเอง"มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผมไม่เห็นด้วยในเรื่องแยกวันเก็บขยะตามประเภทขยะ ขยะทุกประเภทควรกำจัดออกไปทุกวัน ไม่ใช่วันนี้ปล่อยขยะบางประเภทไว้ก่อน ผมว่าแค่แยกถุงแยกถังขยะตามประเภทขยะก็ดีมากแล้ว

คิดว่าเป็นวิสัยทัศน์ของผู้ที่มีอำนาจบริหารจัดการ น่าจะทำอย่างนี้ค่ะ เหมือนกับว่าเคยมีความพยายามที่จะทำ แต่ยังไม่พอ ยังสร้างกระแสความร่วมมือจากทุกภาคส่วนไม่ได้ ควรรณรงค์ให้เหมือนกับการไม่สูบบุหรี่ ได้ผลจริงๆ คงต้องลงทุนลงแรงกันมากมาย แต่ผลที่ได้ ดีต่อทุกคนจริงๆ

เรื่องสำคัญ สร้างจิตสำนึกให้ประชาชน แยกขยะกันอย่างจริงๆจังๆ แล้วขยะก็จะได้รับการคัดแยกได้ง่าย หรือไม่ต้องมีขั้นตอนนั้นเลย ถ้าเราทุกคนร่วมมือกัน

ผมคิดว่าในทางปฏิบัติสามารถทำได้ครับ

แต่ข้อสำคัญก็คือคนที่จะร่วมตรวจสอบและรับข้อร้องเรียน

ในเรื่องดังกล่าวกรณีที่คนเก็บขยะไม่ทำตามนั้นคือใคร

เพราะงานนี้ต้องมีเจ้าภาพรับผิดชอบครับเพราะคนที่จ่ายเงิน

ค่าเก็บขยะให้กับเทศบาลไปแล้วย่อมมีสิทธิ์ในการทวงถาม

เรื่องประสิทธิภาพการทำงาน