Verified answer

สถาบันพลังจิตตานุภาพ มีสาขาอยู่ที่ประเทศแคนาดาจะลองถามให้นะคะว่าที่เยอรมันมีการสอน สมาธิหรือไม่

มาต่อค่ะ ระหว่างรอรถมารับ เนื่องจากมีเวลาน้อย อีกอย่างคุณkometก็เป็นเพื่อนรุ่นแรกๆที่เราเข้ามา อิอิ

(ป่าวเลือกที่รักมักที่ชัง เนื่องด้วยเวลาตะหาก ) ที่เยอรมันไม่มีสาขาค่ะ มีแต่ที่อเมริกากับแคนาดา

โมทนาบุญกับเพื่อนคุณkomet ด้วยนะคะ ขอทุกท่านที่สนใจเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ

ขอย่อๆเน๊าะ การที่เราจะศึกษาเรื่องใดนั้นเราต้องมีความเชื่อมั่นและศรัทธาก่อน

แล้วหมั่นบำเพ็ญเพียรจึงจะเห็นผลเหมือน เราเมื่อก่อนใครชวนไปปฏิบัติธรรมที่ไหนก็ไปหมด ใครว่าดีก็ว่าตาม

เขาชวนไปทำบุญถือศีล บวชเนกขัมมะที่ไหนก็ไป วัดพระะธรรมกาย วัดสังฆทาน วัดท่าซุง วัดไทรงาม ฯลฯ

วัดต่างจังหวัด วัดในเชียงรายไปหมด แต่เราก็คาใจทำไมเขาไม่สอนหลักหรือสอนวิธีการเจริญสมาธิ วิปัสสนา

มีแต่ เอ้า รับศีล นั่งขัดสมาธิ ขาซ้ายทับขาขวา มือขวาทับมือซ้าย หลับตา นึกถึงดวงแก้ว

กำหนดลมหายใจ บริกรรม พุทโธ สัมมาอะระหัง ยุบหนอ พองหนอ นะมะพะทะ ทำไปนะ

แล้วแต่ใครเคยมาอย่างไรก็ทำอย่างนั้น

อันนี้ไม่ได้ว่าที่ไหนไม่ดีนะดีหมดเพราะสุดท้ายก็คือไปที่เดียวกัน แต่ที่เราต้องการคือหลักการปฏิบัติ

ไม่ใช่ปล่อยให้นั่งเป็นชั่วโมงๆ แล้วจิตก็คิดไปโน่นไปนี่ไม่เข้าภวังค์สักที พอนั่งไปแล้ว พบเจออาการ

กิริยาแบบนี้ๆจะต้องทำอะไรยังไง จะเป็นอย่างไรต่อไป ไม่รู้เรื่องเลย

วันนี้พบแล้วที่เราต้องการและตามหา

ขอแนะนำและเผยแพร่ ใครศรัทธาไม่ศรัทธาไม่ว่ากันสถาบันพลังจิตตานุภาพ

ของพระธรรมเจติยาจารย์พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร

เขียนชื่อไม่ถูกนะเพราะจุดข้างล่างทำไม่เป็น อิอิ

การสอนที่นี่ไม่เหมือนที่อื่น เพราะมีการสอนทฤษฏีและการปฏิบัติควบคู่กันไป

(ศิษย์ที่ดีต้องแนะนำอาจารย์ก่อน แหะ แหะ)

หลวงพ่อวิริยังค์เป็นศิษย์ของพระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

เริ่มรับรสพระธรรมเมื่ออายุ13ปีจิตเป็นสมาธิออกจากร่าง หลังจากนั้นพยายามจะบวชเมื่ออายุ14ปี

บวชเป็นชีปะขาวอายุ15ปี บรรพชาเป็นสามเณรอายุ16ปี จนถึงวันนี้อายุย่างเข้า 93 ปี

วันหนึ่ง หลวงปู่มั่นได้บอกให้ท่านไปอยู่กรุงเทพ โดยบอกว่า

"วิริยังค์ คนกรุงเทพฯผู้มีบุญวาสนาบารมียังมีอยู่เยอะ เธอจงไปอยู่กรุงเทพฯถ้าเธอจะทำงานใหญ่ต่อไป

และอนุญาตให้ไปอยู่กรุงเทพฯเพียงรูปเดียว" ในขณะนั้นบรรดาศิษย์ทั้งหลายที่นั่งฟังโอวาทหลวงปู่มั่น

ต่างก็นั่งสำรวมสงบเงียบไม่มีรูปไหนพูดอะไร นี่เป็นเกร็ดประวัติย่อยๆที่พระอาจารย์หลวงพ่อ

ได้เล่าให้นักศึกษาครูสมาธิฟังเมื่อเรียนจบแล้ว (ยังมีอีกแต่แค่นี้ก่อน)

พระอาจารย์หลวงพ่อได้คิดหลักสูตรเพื่อย่นระยะเวลาเพื่อให้พวกเราได้ปฏิบัติกันในระยะเวลาสั้น

แต่ได้ผลเร็ว ท่านเปรียบเหมือนปัจจุบันเราเดินทางได้เร็วขึ้นเพราะรถไฟ เครื่องบิน

หลักสูตรของพระอาจารย์หลวงพ่อ จะทำให้เราได้ทราบ ข้อเท็จจริงมากขึ้น ทั้งสมาธิตื้น

สมาธิลึก ตลอดถึงวิปัสสนา วันี้เอาแค่พื้นฐานเบื้องต้นก่อน แล้ววันหลังจะอธิิบายรายละเอียดอีกที

เริ่มกันดีกว่า กราบบูชาพระรัตนตรัย

กล่าว อะระหังสัมมาสัมพุทโธภควา พุทธังภควันตังอภิเทมิ ไปจนจบบท

ข้าพเจ้าระลึกถึง คุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดา มารดา คุณครูบาอาจารย์

จงมาดลบันดาลให้ใจของข้าพเจ้าจงรวมลงเป็นสมาธิ

พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทโธ ธัมโม สังโฆ พุทโธ ธัมโม สังโฆ

นั่งขัดสมาธิ ขาขวาทับขาซ้าย ตั้งกายให้ตรง มือขวางายทับมือซ้าย วางไว้บนตัก

นึกพุทโธในใจ เอาคำบริกรรมพุทโธไปวางไว้ที่ฐานจิต

หาฐานจิตของตัวเองให้เจอ ถูกจริตของเราตรงไหนก็เอาคำบริกรรมไปไว้ตรงนั้น

ฐานจิตมีอยู่ 5ฐาน คือ หน้าผาก ใบหน้า ปลายจมูก หัวใจ สะดือ

แค่นี้ก่อนนะคะถ้ายังไมปิดคำถามอีก2วันจะมาต่อการเดินจงกรมให้

สวัสดีค่ะ

การฝึกสมาธิที่สะดวก คือ การฝึกอานาปานสติ อันเป็นหนึ่งในอนุสติ 10 เพราะไม่ต้องเสียเวลาทำวัสดุที่จะใช้เพ่ง เช่น ดวงกสิณ เป็นต้น และสามารถใช้อานาปานสติ ฝึกสมาธิจนถึงระดับสุงสุด ไม่จำกัดอยู่ที่ฌานใด เหมือนอนุสติอื่น

ส่วนคำบริกรรมกำกับลมหายใจเข้าออกนั้น แล้วแต่เราจะกำหนดค่ะ ไม่ต้องยึดคิดกับอะไร

อย่างในคัมภีร์วิสุทธิมรรค ซึ่งรจนาโดยพระพุทธโฆษาจารย์ เมื่อประมาณ 1,500 ปีมาแล้ว ใช้การนับเลข ทั้งการนับเร็ว นับช้า นับคู่

ที่ทันสมัยหน่อยก็พระคุณเจ้าที่ วี เจ ซิง นักกอล์ฟระดับโลกไปขอเป็นลูกศิษย์ (จำนามท่านไม่ได้แล้ว) ใช้วิธีนับ 1 - 2 - 3

ปัจจุบันนิยมใช้คำ พุทโธ หรือ สัมมา อรหัง

ถ้าจะให้สะดวก ใช้การนับคู่ก็ได้ค่ะ โดยเริ่มจาก 1 แต่ไม่ควรเกิน 10 (แต่โดยปกติมักใช้แค่ 5) เช่น หายใจเข้านับ 1 หายใจออกก็นับ 1 เป็นคู่ 1 - 1 หายใจเข้าออกครั้งต่อไป เป็นคู่ 2 - 2 ไล่เรื่อยไปจนถึงคู่ 10 - 10 แล้วย้อนกลับมาตั้งต้นที่คู่ 1 - 1 ใหม่

ลองแวะไปดูที่ศูนย์หนังสือธรรมะวัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ซีคะ เห็นมีหนังสือภาษาอังกฤษขายด้วย อาจมีเรื่องเกี่ยวกับการฝึกสมาธิก็ได้ (แต่เล่มที่แนะนำคือ What the Buddha taught ผู้แต่งคือ Venerable Dr. W.Rahula แม้จะไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับการฝึกสมาธิ แต่ก็เป็นหลักธรรมที่ชาวพุทธ หรือผู้สนใจควรรู้ค่ะ)

อนุโมทนากับจิตอันเป็นกุศลนะคะ

อุ อุ อุ โยนมาได้ไง คุณนั่นแหละ ศึกษาแล้วไปสอนเขาต่อ แรงบุญเยอะนา ที่เยอรมันเค้ามีอุปกรณ์การศึกษาด้านนี้พร้อมอยู่แล้ว ที่ห้องสมุดหรือสถาบันต่างๆด้านจิตศาสตร์ ขนาดตำราหรือซีดีมวยไทยภาคภาษาเยอรมันยังมีเลย

ครึ ครึ ครึ บางครั้งความปรารถนาดี ควรควบคู่กับการตั้งความสงสัยอะไรบางอย่างเข้าไว้

สมาธิ มีสอนในที่อื่นๆมากมาย สิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนคือ"วิปัสสนา"ไม่ใช่สมาธิ ..

เขาประสงค์อะไรจึงต้องการ"นั่งสมาธิ+ฝึกการหายใจ"

ลองให้เขาศึกษาที่นี่ครับ..

http://www.dhamma.org/en/bycountry/eu/de.shtml

ผมเคยรู้จากคนที่ฝึกสมาธิจากวัดธรรมกายบอก เคยฝึกฝรั่งมาหลายคนแล้ว และที่สำคัญฝึกคนตาบอดตั้งแต่กำเนิดให้เห็นภาพพระได้ แต่เบื้องต้นก็ให้เค้ารู้ลมหายใจ เข้า ออก ก็น่าจะดี คำภาวนาเป็นเพียงตัวเชื่อมสมาธิ เค้าจะภาวนาชื่ออะไรก็ได้ไม่น่าผิดอาจจะเป็นชื่อ พ่อหรือแม่เค้าก็ได้ครับ

นั่งขัดสมาดเอาขาขวาทับขาซ้ายแล้วเอามือวางที่ตักแล้วแต่ความถนัด ทำตัวให้สบายที่สุดหลับตาเบาๆ

หายใจเข้าออกลึกๆ 3ครั้งแล้วหายใจตามปกติ นั่งจดจ่อดูแต่ลมหายใจของตัวเองไม่ต้องภาวนาก็ได้

วิธีนี้ลองเอาไปฝึกกันดูนะคับ

การที่เราทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดโดยไม่คิดถึงเรื่องอื่น นั้นแหละคือสมาธิ การที่เราจะหายเป็นภาษาเยอรมันนั้นควรทำอย่างตั้งใจนะเดี๊ยวธาตุไฟจะเข้าแซ้กเด้อ

http://www.alternative-medicine.net/meditation/ger...

http://www.meditate.com/