Verified answer

การตรวจลำไส้ของแพทย์ ส่วนใหญ่ก็จะหมายถึงการตรวจลำไส้ใหญ่ ซึ่งนอกจากจะใช้การเอ็กซเรย์ตรวจลำไส้ใหญ่ด้วยการสวนแป้งแล้ว ยังมีอีกวิธีหนึ่งที่เป็นการตรวจลำไส้ใหญ่ เข้าไปดูความผิดปกติของผนังภายในลำไส้ใหญ่โดยตรง เป็นการส่องกล้องเข้าไปตรวจในลำไส้ใหญ่ทั้งหมด ภาพที่เห็นจะปรากฏบนจอโทรทัศน์ ทำให้สามารถวินิจฉัยโรคของลำไส้ใหญ่ได้ถูกต้องแม่นยำขึ้น เช่น เนื้องอกในลำไส้ใหญ่ แผลในลำไส้ใหญ่ สามารถหาสาเหตุของเลือดออกในลำไส้ใหญ่ได้ และสามารถตัดชิ้นเนื้อที่ผิดปกติออกมาตรวจได้

ข้อบ่งชี้ในการตรวจ

1.ถ่ายอุจจาระมีมูก หรือมีเลือด

2.ถ่ายอุจจาระผิดปกติ บางครั้งท้องผูก บางครั้งท้องเสีย

3.มีไข้หรือน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ

4.ถ่ายอุจจาระผิดปกติในผู้สูงอายุ หรือมีประวัติในครอบครัว เป็นมะเร็งหลายๆ คน

การเตรียมความพร้อม

เนื่องจากหัตถการนี้ก็มีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนได้ เช่น ลำไส้ทะลุ อาจจะต้องทำการผ่าตัดฉุกเฉิน การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่มีความยุ่งยากกว่าการส่องกล้องกระเพาะอาหาร ตรงที่จะต้องมีการเตรียมลำไส้

•โดยให้ผู้ป่วยทานยาระบาย แต่ต้องระวังในรายที่มีหัวใจ หรือได้รับยาขับปัสสาวะโรคไต เนื่องจากอาจจะก่อให้เกิด electrolyte imbalance

•ก่อนทำการส่องกล้องทางลำไส้ใหญ่ก็จะสวนอุจจาระ เพื่อให้ลำไส่ใหญ่นั้นไม่มีอุจจาระตกค้าง สามารถที่จะมองเห็นได้ชัดเจน เวลาที่ใช้กล้องส่องตรวจ

การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่ มักจะใช้เวลานานกว่าการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารประมาณ 10 - 15 นาที เนื่องจากลำไส้ใหญ่มีรูปร่างโค้งงอ หักพับ เป็นมุมรูปร่างต่างๆ และเทคนิคการตรวจก็ยากกว่าในผู้ป่วยบางรายอาจตรวจไม่สำเร็จ เช่น ผู้ป่วยที่เคยผ่าตัดในช่องท้อง และมีพังผืดดึงรั้งลำไส้ ทำให้กล้องไม่สามารถผ่านไปได้

ท่าที่ใช้ในการตรวจ

•ท่านอนตะแคงซ้าย ถือว่าเป็นท่ามาตรฐาน

•ท่านอนหงายชันเข่า เข่าขวาซ้อนเข่าซ้าย (ไขว่ห้าง) ท่านี้สะดวกทั้งผู้ป่วย และผู้ตรวจ

•ท่านอนคว่ำ พื้นเตียงจะกดทับผนังหน้าท้องลดการโก่งงอของ Colon

ทำตามคำแนะนำจากแพทย์ ไม่ต้องกังวลใจ เท่าที่ทราบก่อนตรวจ 4 - 6 ชั่วโมง ไม่ควรทานอาหารหนัก ขอให้โชคดีและปลอดภัยอย่าได้เป็นอะไรนะ