Verified answer

เคยถามแม่ชีที่ตำหนักเจ้าแม่กวนอิม ว่าเราทานเนื้อวัวจะบูชาเจ้าแม่กวนอิมได้ไหม แม่ชีตอบว่าจริงๆ แล้วไม่ได้ห้ามแต่คนที่นับถือเจ้าแม่กวนอิม ถือกันเอง

ลองอ่านข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซด์อื่น

สงสัยว่าทำไมคนที่นับถือเจ้ากวนอิมจึงไม่กินเนื้อวัว บางคนบอกว่าเพราะเจ้าแม่กวนอิมท่านทราบว่าพระบิดาของท่านชาติก่อนเคยเกิดเป็นวัว ท่านจึงไม่บริโภคเนื้อวัว เป็นจริงอย่างนี้หรือเปล่า

ตอบ พระโพธิสัตว์องค์สำคัญยิ่งพระองค์หนึ่งทรงพระนาม "พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์" หรือ "พระกวนอิม" เป็นที่เคารพบูชาของพุทธศาสนิกชนฝ่ายมหายาน ทรงพระเมตตากรุณาธิคุณโปรดสัตว์ทั่วทั้งไตรภูมิให้พ้นกองทุกข์ จึงมีพระเนมิตตกนาม (นามที่ได้จากลักษณะและคุณสมบัติ) "พระกวนอิมพู่สัก" คือพระโพธิสัตว์ผู้มีพระกรรณาวธานโลกาศัพท์ แปลว่าพระโพธิสัตว์ผู้เงี่ยหูฟังเสียงโลก

ตำนานเล่าถึงพระกวนอิมว่าเป็นราชธิดาองค์สุดท้องนาม "เมี่ยวซาน" ในจำนวน 3 องค์ของฮ่องเต้เมี่ยวจวง กษัตริย์ผู้ปกครองบ้านเมืองอย่างปราศจากทศพิธราชธรรม ทรงโหดร้ายทารุณราษฎร ไม่เลื่อมใสพระพุทธศาสนา และไม่พอพระทัยที่ธิดาน้อยบูชาพระพุทธองค์ ทั้งทรงบำเพ็ญเพียรนับแต่แรกเกิด ทรงร้องไห้จ้าทันทีที่นาสิกสัมผัสกลิ่นสุราเมรัยและของคาว

นักพรตชราทูลว่าพระราชธิดาองค์นี้คือพระเมตตาลงมาประสูติเพื่อฉุดช่วยชาวโลกที่มีเคราะห์ จะนำพาเหล่ามนุษย์ให้สำเร็จเป็นพุทธะ เวลาต่อมาฮ่องเต้ให้พระธิดาทำให้ต้นไม้ที่แห้งตาย แตกใบงอกงามภายในสามวัน พระธิดาสามารถทำได้อย่างอัศจรรย์ ให้ลับท่อนเหล็กเป็นเข็มเล็ก ก็ทำได้ดังใจนึก

ครั้นถึงกำหนดต้องแต่งงาน พระธิดาหนีออกจากวัง ประชาชนที่ถูกกดขี่ติดตามหนีมาด้วยมากมาย เมื่อกองทหารของพระบิดาไล่ตามถึงริมแม่น้ำ บังเกิดมีสะพานให้ผู้ลี้ภัยข้ามน้ำพ้นอันตราย ประชาชนคนทุกข์ขานพระนามราชธิดาเป็นเจ้าแม่แห่งความเมตตา "กวนซีอิม" แล้วร่วมแรงตัดไม้สร้างวัด ณ ที่นั้น

ฮ่องเต้ประชวรหนัก ขุนนางทรยศทูลว่าลูกตาและแขนของหญิงพรหมจรรย์ที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขพระองค์เท่านั้นจะเป็นยารักษาหายได้ พระธิดาทรงควักลูกตา แล้วให้ตัดแขนนำไปถวายทันที ด้วยแรงกตัญญู พระบิดาหายประชวรดังปาฏิหาริย์ ส่วนพระธิ***ลับมีดวงตาเพิ่มขึ้นที่หน้าผาก และมีมือเพิ่มขึ้นเป็นสิบกร ประทับนั่งบนฐานดอกบัวลอยสู่อากาศ รัศมีสว่างแผ่กว้างทั่วสารทิศ ประชาชนหมอบไหว้และกษัตริย์ก็เลื่อมใสพระพุทธศาสนาตั้งแต่นั้นมา

อย่างไรก็ตามด้วยความที่ทรงโหดร้ายต่อราษฎรมามาก เมื่อตายไป ฮ่องเต้เมี่ยวต้องไปเกิดเป็นวัวเพื่อชดใช้กรรม ประชาชนผู้เคารพเลื่อมใสในเจ้าแม่กวนอิมจึงพร้อมใจไม่บริโภคเนื้อวัว ด้วยเกรงว่าจะไปกินถูกเนื้อบิดาของพระองค์เข้า โดยที่พระกวนอิมก็ไม่บริโภคของคาวอยู่แล้ว

ตำนานคือกุศโลบาย เรื่องก็คือ แผ่นดินจีนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลนัก ต้องการวัวควายเป็นแรงงานในไร่ในนา หากผู้คนซึ่งก็มีอยู่จำนวนมหาศาล รับประทานเนื้อวัวกันหมด จะหาวัวที่ใดมีชีวิตมาช่วยทำไร่ทำนาเล่า นอกจากนี้ นมวัวนั้นเราก็ทานต่างนมแม่ ดังนั้น บริโภคเนื้อวัวก็ประหนึ่งทานเนื้อแม่ตัวเอง เมื่อความเป็นจริงสอดคล้องกับตำนาน ผู้นับถือพระกวนอิมจึงไม่รับประทานเนื้อวัว

ดิฉันก็ไม่ทราบที่มาหรอกนะค่ะ ก็เพิ่งทราบจากคำตอบของคุณ e-nai นี่เองค่ะ ถือโอกาสขอบคุณเลยนะค่ะ

ขออนุญาตเล่าเพิ่มเติมจากประสบการณ์จริงของตัวเองนะค่ะเพราะปัจจุบันก็ไม่ทานเนื้อวัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ดิฉันก็ทานบ้าง ไม่ทานบ้าง (ตอนนั้นพักอาศัยอยู่กับพี่สาว เขาไม่ทานเนื้อวัว พออยู่บ้านก็ไม่ทานตาม แต่พออยู่นอกบ้านกับเพื่อน ๆ ร่วมงานก็ทานได้) โดยนิสัยส่วนตัวค่อนข้างดื้อรั้นและไม่เชื่อเรื่องทำนองนี้เลย

อยู่มาวันหนึ่งได้เดินทางไปพบลูกค้าแถวรามอินทรากับเจ้านาย เจ้านายบอกว่าแถวนี้มีร้านก๊วยเตี๋ยวอร่อยมากจะพาแวะทาน พอถึงร้านแค่ดิฉันเปิดประตูก้าวเท้าลงจากรถก็ได้กลิ่นเหม็นอย่างบอกไม่ถูกพร้อมบังเกิดภาพพระโพธิสัตว์กวนอิมลอยเข้ามาในบัดดล ทำให้ดิฉันขนลุกซู่ จนต้องตั้งจิตอธิฐานและบอกกล่าวในใจว่า "ขอรับประทานครั้งนี้อีกครั้งเดียวเพราะเกรงใจเจ้านาย" หลังจากกลับมาดิฉันก็อยู่เฉยไม่ได้ ต้องไปสอบถามว่ามีพระโพธิสัตว์กวนอิมอยู่ที่ไหนบ้าง ในที่สุดก็พบว่าอยู่ใกล้บ้านตัวเองนี่เองก็เลยไปไหว้และสาบานตนต่อหน้าท่านว่าจะไม่รับประทานเนื้อวัวอีกต่อไป นับแต่นั้นมารู้สึกว่าจิตใจปลอดโปร่ง คิดแต่สิ่งดีดี ชอบทำบุญช่วยเหลือผู้อื่น และที่สำคัญคือมีความรู้สึกว่าชีวิตต้วเองดีขึ้นทั้งทางวัตถุและจิตใจ

ทุกวันนี้ถ้านึกวันนั้นทีไร ขนยังลุกไม่หายเลยค่ะ ซึ่งก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร