Verified answer

เคยทุกอย่างที่คุณเล่ามา ยกเว้น ดิฉันไม่โทร ไม่เซ้าซี้ ไม่เล่า แต่ดิฉันคิด

เสียใจยิ่งคิด คิดไปคิดมา เขาก็คน คนหนึ่ง

ดิฉันอาจเสียเพื่อนที่ดี คนที่รู้จักดิฉันดี คนที่ดิฉันใส่ใจที่สุดไปก็ได้ ถ้าดิฉัน

จะยอมรับได้ก็วางเฉยเสีย ทุกอย่างก็จะจบลงเท่านี้

เวลาที่ผ่านมาอาจจะดูดี สามปีของคุณกับเขา มีคนหนึ่งยอมๆจึงผ่านเวลามาขนาดนี้

แต่ เวลาที่คุณบอกนั้น ทำให้มองอีกแง่มุมถึงการเติบโตของคน คุณกับเขามีการเติบโต

เปลี่ยนแปลงทางกาย ทางจิตใจ เวลานี้อาจจะคิดไปคนละทาง............

...ถ้าแต่งงานหรืออยู่กินกันก็เลิกกันในช่วงเวลานี้ ที่เขาเรียกว่า รักกันไม่พอหมดความอดทน

ถ้าถามว่าดิฉันคิดอย่างไร ดิฉันคิดว่า

คุณใช้เวลา ในวันนี้ คิดถึงอาชีพ การงาน อนาคต ที่มีคุณทำได้ตามลำพัง แล้วคิดถึงว่า

คุณต้องการผู้ชาย คนหนึ่ง มาทำอะไร เขามีผลอะไรกับชีวิตของคุณ จากนั้นคิดในมุมของเขา

เขาต้องการคุณในลักษณะไหน เขาต้องการอะไรจากคุณ

ในฐานะของเพื่อนร่วมโลกที่รู้จักกันมา3ปี คุณจะอยู่กับเขาอย่างไร

ให้อภัย และอย่าทำตัวเองให้ประสาทเสีย ไม่มีใครมาทำร้ายจิตใจของคุณได้ ถ้าคุณไม่ต้องการ

ไม่ยอมรับ เหตุการณ์ครั้งนี้ คุณเป็นผู้ใหญ่ขึ้นหรือเปล่า

เป็นโอกาสที่ดีไหม หากจะทบทวนชีวิตตัวเองดู .....คุณต้องดูดีกว่าเดิมค่ะ ยิ้มนะคะ *-*

บางทีพยายามมากเกินไป เขาก็ยิ่งหนี

แต่พยายามน้อยเกินไปเขาก็ลืม

อย่าพยายามไปเซ้าซี้มาก และเห็นด้วยที่บางทีโทรศัพท์น่ะมันไปผิดที่ผิดเวลา

บางทีนอกจากสัญญาณไม่ดี คนรับอาจไม่พร้อมที่จะฟังก็ได้นะ

เช่นอยู่ในที่สาธารณะ ติดประชุม หรือเข้าห้องน้ำ

อย่าเครียดกับมันเกินไปยิ่งจะทำให้แก้ปัญหาไม่ได้ และลุกลาม

บางทีอาจเป็นสถานะการณ์ชั่วคราว เราอย่าไปทำให้มัน กลายเป็นเรื่องใหญ่

แต่ถ้ามันเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ เราก็ต้องค่อยแก้ไข อย่างระมัดระวัง

จะหักหาญ หรือคาดหวังให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างใจเราคิด ทันทีไม่ได้

เข้าใจครับว่า อึดอัด ไม่สบายใจ แต่บางทีเราต้องเริ่มคิดจากสิ่งที่ดีๆก่อน

หากอยากจะแก้ไขสิ่งไม่ค่อยดีให้พ้นไป

เคยคิดบ้างไหมว่าต้องคุยกันตัวต่อตัว เจอกันที่บ้าน ไม่ใช่มีอะไรก็ใช้โทรศัพท์ หรือว่ามันมีปัญหาไม่กล้าเผชิญหน้ากัน ?

ไม่ไหวมั้ง คุณลองพูดกะเขาอีกทีแบบที่อธิบายในนี้ดูนะ แล้วลองดูว่าเขาจะว่าไง บอกไปเลยว่าเราเสียใจที่เขาทำแบบนั้น ตกลงจะทำยังไงกันดี การเก็บๆเอาไว้ มันจะทำให้ต้องเก็บกดและมานั่งเสียใจ ผู้หญิงชอบคิดมาก จุกจิก ส่วนผู้ชายนิสัยเขาไม่ชอบเรื่องจุกจิกกวนใจ ก็ต้องปรับให้มันพอดีกัน เธอลดลงครึ่งเขาลดลงครึ่ง อย่าบอกว่าเปลี่ยนไม่ได้ จะเป็นไงก็อยากเป็นแบบนั้น ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไปหาคนที่ไปกันได้ คนเราบ้างทีก็ไม่รู้ตัวเองว่ามีข้อบกพร่องตรงไหน บอกไปก็เข้าข้างตัวเองว่าไม่ได้ขี้บ่นสักหน่อย ไม่ได้ไม่แคร์สักหน่อย สองคนจูนกันไม่ได้ คลื่นมันก็ไม่ชัด ถ้าอยากให้ใสแจ๋วก็ต้องปรับคลื่นนะ อดทนในแบบที่ไม่ใช่อดกลั้น แต่เป็นยอมรับกันและกันและปรับแก้ในสิ่งที่คิดว่าเอาแต่ใจไป สองคนต้องทำด้วยกัน จะได้เข้าใจกันมากขึ้น ถ้าทำได้จะชินไปเองและไม่คิดน้อยใจหรือลมเสียใส่กันอีก เปรียบเหมือนเพลงในวิทยุที่หมุนเจอคลื่นที่ชัด มันก็ฟังรื่นหู

มันก็เป็นแบบนี้แหละสองปีแรกจะหวานแหวว บางคู่แค่สามเดือนยังมีเลย แต่พอผ่านไปสามสี่ปี จะเริ่มแสดงตัวตนของตัวออกมามากขึ้น ไม่ต้องระวังเหมือนเก่า ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ก็ฉลุย แต่ก็ไม่แน่ บางคู่คบกันสิบปีกว่ายังเลิกได้เลย มันอยู่ที่ว่า มีเหตุอะไรมาทำให้เกิด แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าทั้งสองคนยังรักกันพอสมควรขึ้นไป ก็จะไม่มีอะไรมาทำให้ร้างลาไปได้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่าไปยึดติด ผลของวันนี้อาจไม่สวยงามหรืออาจสวยงาม ใจเราก้ต้องยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้นให้ได้ ต้องรักตัวเองและอยู่ต่อไปให้ได้

เห็นเค้า เป็นกระจกเงาสะท้อนถึงเรา

บางที เราคงเหมือนเค้า คือ อยากจะพูดพูดพูด สิ่งที่มันอัดอั้นตันอุราออกมา

ต่อหน้าใครสักคนที่เค้ารับฟังเราอย่างตั้งใจ

นี่ น่าจะเป็นสิ่งพึงปรารถนาของสิ่งมีชีวิตที่เป็นคน แทบทุกคน

คนสองคน ที่รู้จักกัน ผ่านเวลามาถึงระยะหนึ่ง(ระยะไหนก็แล้วแต่ของใครของใคร)

เหมือนเป็นจุดทดสอบกันและกันว่า แล้วเรา จะอย่างไรกันต่อไป

ก่อนจะมีเขา เราก็อยู่กับตัวของเรา ดีดี

พอมีเขาเข้ามา เราก็คงได้พบได้เจออะไร ๆ ที่มีระหว่างกันและกัน

ดีบ้าง ร้ายบ้าง

ทนได้บ้าง ทะลักออกบ้าง

วันนี้ แต่ละคนมีจุดของตัวเอง

ถึงจะมี หรือไม่มีเขา อยู่ตรงข้างเรา

เชื่อว่า ชีวิตของเรา ก็ยังดำเนินต่อไป ไม่ว่าเราจะต้องการเช่นนั้นหรือไม่

สภาพจิตใจตอนนี้ของคุณ เหนื่อยอ่อน และบอบช้ำอารมณ์

ดูแลเค้าก่อนนะ

ก่อนจะไปนอกตัวเพื่อห่วงกังวลใคร

รักษาใจรักษาอารมณ์ของเราให้นิ่งก่อน

แล้วความนิ่งจะช่วยให้เราเห็นอะไรชัดเจนขึ้น

เพื่อให้เราเดินต่อ อย่างมีทิศทาง

ขอแสดงความคิดเห็นเลยนะผมเองอาจไม่ประสบด้วยตัวเองแต่ในฐานะที่ปรึกษาเกี่ยวกัยคู้รักมาหลายปี

คุณบอกว่าเวลาก็เป็นเหตุผลส่วนหนึ่ง ที่สำคัญคือคุณ คนต่างหาก

ผมไม่เข้าข้างใครนะแต่ลองคิดทบทวนดูว่าเราเคยทำอะไรผิดพลาดไปบ้างแก้ไขแล้วหรือยัง

เริ่มจากการที่เขาไม่รับฟังปัญหาที่เราระบายนะ..

- เรื่องที่เล็กน้อยมาก

- เรื่องนี้น่าเบื่อซ้ำซาก

- กระทบกระเทือนถึงจิตใจ

- ไม่เห็นเกี่ยวกันเลย

นี่คือเ็หตุผล1ในนี้อาจเป็นคำตอบ

แต่นี้แค่เริ่มล่ะสิคุณและเขาคงมีปัญหากันมากมายแต่ผมว่านะเวลามันพิสูจน์คนจริง

3ปีแรกเขาและคุณอาจมองเห็นและแสดงข้อดีของแต่ละฝ่ายกันจนลืมมองและยอบรับข้อด้อยของแต่ละฝ่าย

พอเวลาผ่านไปคุณและเขาเริ่มคุ้นเคยกันมันเลยทำให้แสดงออกมาดดยไม่ลังเล

พูดง่ายๆคือเผยตัวตนออกมาแล้วที่ผมบอกนี้ไม่ได้ว่าพวกคุณนะแต่ผมจะพูดให้เห็นว่าคนเราจะรักกันต้องยอมรับในสิ่งที่เขาเป็นอยู่มิใช่รักและต้องการในสิ่งที่เราอยากให้เขาเป็น.แล้วอาจเพราะอะไรสักอย่างทำให้คุณทั้ง2ลืมบางอย่างไปจนลืมคิดคุณลองเปิดใจและคุยกันดูสิแล้วคุณอาจจะพบปัญหาคนรักกันจะรอดและยืนยาวต้อง

-ยอมรับความเป็นจริงของกัน

-เชื่อใจ

-ให้อภัย

-รู้จักการยอม

แค่นี้คุณจะรักกันยืนยาว

คุณอย่าลืมนะคนเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบทุกคนต่างมีดีและด้อยที่คอยมาเติมเต็มกันพอดี

หากมันไม่พอดีมันก็เหมือนจิ๊กซอที่ต่อผิดชิ้นนั้นเอง..ผมพูดถึงตรงนี้คุณเองคงพอคิดได้นะว่าควรทำไงต่อไป

สุดท้ายคุณจำไว้นะอย่างนึงว่า ไม่มีอะไรได้มาโดยไม่เสียอะไรไป และไม่ใช่คุณเพียงคนเดียวที่เจอปัญหา

จงอย่าท้ออย่าหมดหวังกับบททดสอบหากคุณยอมแพ้ก็เข้าทางของชะตากรรม มีสติคิดไตร่ตรอง ทบทวนแล้วอดทนอยู่กับความปวดร้าว เจ็บปวด เสียใจในสังคมชีวิตให้ได้

ทำเหมือนไม่รักกัน หรือ ว่ากำลังจะหมดรัก เรานะเคยเจออาการแบบนี้เลยเค้าหมดรักเราจริงๆ แต่สำหรับคุณอาจจะไม่ใช้ก็ได้คุณก็พยามห่างเขานิดคือไม่ต้องโทรตามโทรจิกเขาดูดิจะเป็นอย่างไร ขอให้โชคดีนะจ๊ะ

ใจคนเปลี่ยนตามเวลา

การลงทุนต้องศึกษาเพราะมีอัตตาความเสี่ยง

ลงทุนทั้งชีวิต ถ้าเสี่ยงด้วยการเริ่มต้นไม่ดีก็ไม่ควรเสี่ยง

*********มีรักหนึ่งทุกข์หนึ่ง มีรักร้อยก็ทุกข์ร้อย ถ้าไม่มีรักเลย ก็ไม่ทุกข์เลย*********